การเขียนบทที่ 2 ชื่อมันก็บอกตัวเองอยู่แล้วครับว่าคือ แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เป็นการทบทวน แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา วิจัยของเรา และสรุปว่านอกจากเราแล้วยังมีใครบ้างที่คิดเหมือนเราและวิจัยคล้ายเรา แต่สภาพการเขียนบทที่ 2 ในปัจจุบันพบข้อเท็จจริงคือ
1. ความจริงที่เป็นจริง
ในส่วนนี้ผมขอยกข้อคิดเห็นของนักวิชาการท่านอื่น ๆ บ้างนะครับเพื่อยืนยันว่าไม่ใช่แต่ผมและชาวคณะที่คิดและเขียนเรื่องนี้
ดร. จำเนียร จวงตระกูล กล่าวว่า
"...เนื้อหาสาระของการทบทวนวรรณกรรมไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ส่วนใหญ่ที่พบจะมีลักษณะการเขียนบรรยายโดยนำเอาข้อความจากเอกสารต่างๆมาตัดต่อกันไม่ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็นและเชื่อมโยงวรรณกรรมนั้นๆกับงานวิจัยของตน วรรณกรรมที่ใช้ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นต้นฉบับ บางรายประมาณ 70-80% เป็นการอ้างอิงต่อมาอีกหลายทอดซึ่งในระดับปริญญาเอกไม่สามารถทำเช่นนี้ได้...."
ที่มา : ดร. จำเนียร จวงตระกูล.2549.ข้อคิดเห็นสิบสองประการเกี่ยวกับการเขียนข้อเสนอโครงการวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาระดับปริญญาเอก hhtp://www.jamnean.org
ความจริงที่เป็นจริงคือ แนวคิด ทฤษฎี จะนำมาเขียนโดยการวางเรียงต่อ ๆ กันเฉย ๆ บางครั้งถ้อยคำไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกันเพราะมากันคนละแหล่งซึ่งคนเขียนงานก็ใช้ภาษาต่างกัน
2. ความจริงที่ควรจะเป็น คือ
การนำเสนอแนวคิด ทฤษฎี จะต้องวิพากษ์ วิจารณ์ วิเคราะห์ แสดงความคิดเห็นต่อทฤษฎีนั้น ว่าเป็นอย่างไร สอดคล้อง หรือไม่ กับการวิจัยของตนเอง เช่น ถ้าเราจวิจัยเรื่องใดเรื่องหนึ่งสมมติว่ามีแนวคิด ทฤษฎีอยู่ 5 อย่าง ก็วิเคราะว่าแนวคิด ทฤษฎีแต่ละอย่างมีใจความอย่างไร เหมือนหรือต่างกัน ใช้วิเคราะห์อะไรได้บ้าง มีจุดดี จุดอ่อนอย่างไร จะนำมาใช้กับงานวิจัยของเราอย่างไร
เนื้อหาของเรื่องนี้ก็คงประมาณนี้นะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น